Oracle แต่ละเวอร์ชั่น

credit: https://www.educba.com/oracle-versions/

Oracle Database 1.0 (1979)

1. ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database): เป็นรุ่นแรกที่ใช้แนวคิดฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์.
2. การใช้ภาษา SQL: รองรับการใช้ภาษา SQL ในการจัดการฐานข้อมูล.
3. รองรับ Multiple Users: สามารถรองรับการใช้งานจากผู้ใช้หลายคนพร้อมกัน.

Oracle Database 2.0 (1983)

1. รองรับ Multiple Operating Systems: สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการหลายระบบ.
2. เทคโนโลยี Client-Server: รองรับการทำงานในรูปแบบ client-server.
3. การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของระบบฐานข้อมูล.

Oracle Database 6 (1988)

1. รองรับ PL/SQL: เพิ่มการสนับสนุนภาษาโปรแกรม PL/SQL.
2. การจัดการการกู้คืนข้อมูล: แนะนำ Recovery Manager (RMAN) เพื่อการกู้คืนข้อมูลที่ดีขึ้น.
3. การพัฒนาประสิทธิภาพ: ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือของระบบฐานข้อมูล.

Oracle Database 7 (1992)

1. การจัดการ Transaction ที่ดีขึ้น: ปรับปรุงการจัดการ Transaction ให้มีความมั่นคงมากขึ้น.
2. การกู้คืนข้อมูล (Recovery): การปรับปรุง Recovery Manager (RMAN) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น.
3. การรองรับ Object-Relational: เพิ่มการรองรับ Object-Relational Database.

Oracle Database 8 (1997)

1. รองรับ Object-Relational: เพิ่มการสนับสนุนสำหรับ Object-Relational Database.
2. การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่: เพิ่มการสนับสนุนสำหรับ data warehousing.
3. รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ต: ปรับปรุงการใช้งานร่วมกับ internet applications.

Oracle Database 8i (1999)

1. รองรับ Java: เพิ่มการสนับสนุน Java ในฐานข้อมูล.
2. Internet Protocols: รองรับโปรโตคอล HTTP และ LDAP.
3. การปรับปรุงประสิทธิภาพ: ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของฐานข้อมูล.

Oracle Database 9i (2001)

1. Real Application Clusters (RAC): เพิ่มการสนับสนุน Real Application Clusters.
2. การแบ่ง Partition: การสนับสนุนการแบ่ง Partition ของตาราง.
3. Advanced Queuing: เพิ่ม Advanced Queuing สำหรับการจัดการคิวข้อมูล.

Oracle Database 10g (2003)

1. Grid Computing: เพิ่มการสนับสนุน Grid Computing.
2. Automatic Storage Management (ASM): ระบบจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลอัตโนมัติ.
3. Flashback Technology: ฟีเจอร์สำหรับการกู้คืนข้อมูลย้อนกลับในช่วงเวลาหนึ่ง.

Oracle Database 11g (2007)

1. Active Data Guard: เพิ่มการสนับสนุน Active Data Guard สำหรับการสำรองข้อมูลแบบเรียลไทม์.
2. SecureFiles: ระบบจัดการไฟล์ที่มีความปลอดภัยสูง.
3. Data Compression: ฟีเจอร์การบีบอัดข้อมูลเพื่อประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล.

Oracle Database 12c (2013)

1. Multitenant Architecture: รองรับการใช้หลาย PDBs (Pluggable Databases) ในหนึ่ง CDB (Container Database).
2. Automatic Data Optimization: ระบบการปรับปรุงข้อมูลอัตโนมัติ.
3. In-Memory Column Store: ฟีเจอร์การจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำแบบคอลัมน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา.

Oracle Database 18c (2018)

1. Autonomous Database: การใช้งานฐานข้อมูลแบบอัตโนมัติที่ลดความยุ่งยาก.
2. Automatic Indexing: ฟีเจอร์การสร้างและปรับปรุงดัชนีอัตโนมัติ.
3. Real-Time Analytics: การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์.

Oracle Database 19c (2019)

1. Stability and Long-term Support: ความมั่นคงและการสนับสนุนระยะยาว.
2. การปรับปรุง Performance: การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ.
3. Automatic Indexing: ฟีเจอร์การสร้างและปรับปรุงดัชนีอัตโนมัติที่เพิ่มประสิทธิภาพ.

Oracle Database 21c (2021)

1. Blockchain Tables: ฟีเจอร์การสร้างตารางแบบ blockchain.
2. JavaScript Execution: การรันโค้ด JavaScript ในฐานข้อมูล.
3. AutoML: การสนับสนุน AutoML สำหรับการเรียนรู้ของเครื่องอัตโนมัติ.

แต่ละเวอร์ชันของ Oracle Database มีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ.